7 โทนสี Texture ยอดนิยมที่ไม่เคยตกเทรนด์

7 โทนสี Texture

ในโลกของงานตกแต่งภายใน สี texture กลายเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยยกระดับบรรยากาศของพื้นที่ให้ดูมีมิติ หรูหรา และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบ้านพักอาศัย โรงแรม คาเฟ่ หรืออาคารสำนักงาน การเลือกโทนสีที่เหมาะสมสามารถเปลี่ยนความรู้สึกของพื้นที่ได้อย่างมหัศจรรย์

จุดเด่นของสี texture คือ ไม่ได้ให้แค่ “สี” แต่ยังให้ “ผิวสัมผัส” ที่สวยงามแตกต่างไปจากการทาสีเรียบทั่วไป และด้วยเทคนิคการฉาบ ปาด พ่น ขัด เกลี่ย หรือไล่เฉดสี ทำให้ผนังแต่ละผืนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่เหมือนใคร

วันนี้เราจะพามารู้จัก 7 โทนสี Texture ยอดนิยมที่ไม่เคยตกเทรนด์ ซึ่งสามารถใช้ได้กับทุกยุคทุกสไตล์ และยังคงให้ความรู้สึกหรู ดูอบอุ่น และสบายตาเสมอ

 

7 โทนสี Texture ยอดนิยมที่ไม่เคยตกเทรนด์

 

1. โทนสีเบจ (Beige) – เรียบง่ายแต่ดูแพง

สีเบจถือเป็นโทนคลาสสิกที่อยู่เหนือกาลเวลา ให้ความรู้สึกอบอุ่นแต่ยังคงความหรูหรา เหมาะกับการตกแต่งห้องนั่งเล่นหรือห้องนอนที่ต้องการบรรยากาศสงบและสบายตา

เมื่อใช้สี texture โทนเบจ จะช่วยเพิ่มมิติให้ผนังดูมีชีวิตชีวาขึ้น เนื้อสัมผัสของสีช่วยให้แสงและเงาเล่นกันอย่างนุ่มนวล สร้างความรู้สึกที่เรียบหรูแต่ไม่จืดชืด เหมาะกับสไตล์มินิมอล สแกนดิเนเวียน หรือโมเดิร์นลักชัวรี

 

2. โทนสีเทา (Gray) – โมเดิร์น เท่ และเข้ากับทุกสไตล์

สีเทาคือโทนยอดนิยมตลอดกาล เพราะสามารถปรับเข้ากับได้แทบทุกแนวการตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นมินิมอล หรืออินดัสเทรียล

เมื่อผสานกับพื้นผิวของ สี texture จะยิ่งเพิ่มความลึกและคาแรกเตอร์ให้ผนังมากขึ้น จากผนังสีเทาเรียบ ๆ ธรรมดา กลายเป็นผนังที่ดูมีเสน่ห์และสะท้อนรสนิยมของผู้อยู่อาศัยได้อย่างดี

 

7 โทนสี Texture ยอดนิยมที่ไม่เคยตกเทรนด์

 

3. โทนสีขาวงาช้าง (Ivory White) – ความบริสุทธิ์ที่มีมิติ

สีขาวงาช้างให้ความรู้สึกสะอาด โปร่งโล่ง และอบอุ่นกว่าสีขาวล้วน เหมาะกับคนที่ต้องการความเรียบง่ายแต่ไม่แข็งทื่อ

เมื่อใช้เทคนิคสี texture โทนนี้ จะช่วยให้ผนังดูละมุนและมีมิติขึ้นทันตา สามารถใช้ได้ทั้งในบ้านพักอาศัย ร้านกาแฟ หรือโฮมออฟฟิศ เพราะให้ความรู้สึกสงบและผ่อนคลาย เหมาะกับทุกเพศทุกวัย

 

4. โทนสีทรายทอง (Sand Beige / Warm Taupe) – หรูหราอย่างธรรมชาติ

สีทรายทองหรือโทนสีน้ำตาลอมทอง เป็นหนึ่งในสีที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นแต่ยังคงความหรูหราได้อย่างลงตัว โทนนี้มักเห็นได้ในรีสอร์ท โรงแรม หรือบ้านสไตล์ทรอปิคอล

เมื่อทำด้วยเทคนิคสี texture จะเกิดแสงเงาที่สะท้อนอย่างสวยงาม โดยเฉพาะเมื่อกระทบกับแสงธรรมชาติ ให้ความรู้สึกผ่อนคลายแต่แฝงด้วยความมีระดับ

 

7 โทนสี Texture ยอดนิยมที่ไม่เคยตกเทรนด์

 

5. โทนสีเทาเขียว (Sage Green / Olive Gray) – ความสงบแบบธรรมชาติ

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สีโทนเขียวหม่น หรือ Sage Green ได้รับความนิยมอย่างมากในวงการตกแต่งภายใน เพราะให้ความรู้สึกสงบ ผ่อนคลาย และใกล้ชิดธรรมชาติ

เมื่อใช้ร่วมกับเทคนิคสี texture ผนังจะดูมีชีวิตชีวาและลึกขึ้น เหมาะกับการตกแต่งบ้านที่ต้องการบรรยากาศสงบแบบรีสอร์ท หรือโฮมออฟฟิศที่เน้นความผ่อนคลายไม่ตึงเครียด

 

6. โทนสีเทาเงิน (Silver Gray / Metallic Touch) – เรียบแต่ดูแพง

สำหรับคนที่ชอบความทันสมัยและต้องการความหรูหราในแบบเรียบ ๆ สีเทาเงินหรือสีเมทัลลิกโทนอ่อนคือคำตอบที่ดี

เมื่อทำด้วยเทคนิคสี texture ที่มีส่วนผสมของผงเมทัลลิกหรือวัสดุสะท้อนแสงบางประเภท จะช่วยให้ผนังดูมีประกายวิบวับเบา ๆ สะท้อนความหรูหราแบบไม่ต้องใช้ของตกแต่งมาก

 

7 โทนสี Texture ยอดนิยมที่ไม่เคยตกเทรนด์

 

7. โทนสีเอิร์ธโทน (Earth Tone) – อบอุ่นและเข้าถึงง่าย

เอิร์ธโทนเป็นกลุ่มสีที่ไม่มีวันตกเทรนด์ เพราะให้ความรู้สึกอบอุ่น ใกล้ชิดธรรมชาติ และเข้ากับทุกวัสดุในบ้าน เช่น ไม้ หิน หรือโลหะ

การใช้สี texture โทนนี้ จะช่วยเพิ่มมิติให้กับพื้นผิวมากขึ้น และเหมาะกับทั้งบ้านแนวอบอุ่นแบบญี่ปุ่น ไปจนถึงสไตล์โมเดิร์นรีสอร์ท สีอย่างน้ำตาลอ่อน เทาอมเขียว หรือเทาอมครีม ล้วนให้บรรยากาศที่ผ่อนคลายและหรูในเวลาเดียวกัน

 

เทคนิคการเลือกสี Texture ให้เข้ากับพื้นที่

แม้โทนสีจะมีความสำคัญ แต่การเลือก “เฉด” ที่เหมาะสมกับพื้นที่ก็สำคัญไม่แพ้กัน เช่น

  • พื้นที่เล็ก ควรเลือกสี texture โทนอ่อนเพื่อช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้น 
  • พื้นที่ขนาดใหญ่ สามารถเลือกใช้สีเข้มหรือสีเมทัลลิกบางเฉด เพื่อสร้างจุดเด่นให้กับผนัง 
  • ห้องที่รับแสงน้อย ใช้สีอุ่น เช่น เบจหรือเอิร์ธโทน เพื่อเพิ่มความอบอุ่น 
  • ห้องที่มีแสงธรรมชาติเยอะ สามารถเล่นกับสีเย็น เช่น เทาเขียว หรือเทาเงิน เพื่อสร้างความสมดุลของอุณหภูมิสี 

 

 

สี Texture คือศิลปะที่อยู่เหนือเวลา

“สี texture” ไม่ได้เป็นเพียงวัสดุทาผนัง แต่เป็นศิลปะที่สร้างบรรยากาศและอารมณ์ในพื้นที่ได้อย่างลึกซึ้ง โทนสีที่เลือกไม่เพียงบ่งบอกถึงสไตล์การตกแต่งเท่านั้น แต่ยังสะท้อนตัวตนและรสนิยมของผู้อยู่อาศัยด้วย

ไม่ว่าจะเป็นโทนสีเบจเรียบหรู เทาโมเดิร์น หรือเอิร์ธโทนอุ่นละมุน ทั้งหมดนี้ล้วนอยู่เหนือกาลเวลา และยังคงเป็นโทนยอดนิยมที่ “ไม่เคยตกเทรนด์” สำหรับใครที่กำลังมองหาความแตกต่างให้กับผนังบ้าน สี texture คือคำตอบที่ช่วยเติมเต็มความงามอย่างมีเอกลักษณ์

 

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

 

 

ติดต่อสอบถาม

Line : @petradecor

Tel : 02-028-8714

Email : info@petradecoration.com

Facebook : https://www.facebook.com/goldleafsilverleaf/