สี texture แตกต่างจากสีทาบ้านทั่วไปอย่างไร?

สี texture VS สีทาบ้านทั่วไป

 

สี texture แตกต่างจากสีทาบ้านทั่วไปอย่างไร?

 

สี texture แตกต่างจากสีทาบ้านทั่วไปอย่างไร? การเลือกวัสดุและการตกแต่งผนังเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญในการสร้างบ้านหรือรีโนเวทพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นบ้านพักอาศัย คอนโด รีสอร์ท หรือแม้แต่ร้านค้า หลายคนอาจคุ้นเคยกับการใช้สีทาบ้านทั่วไปที่มีลักษณะเรียบง่าย แต่ในปัจจุบัน สี texture หรือ ผนัง texture กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะนอกจากจะช่วยสร้างบรรยากาศที่มีเอกลักษณ์แล้ว ยังมีความทนทานและเพิ่มมิติให้กับผนังมากกว่าสีทาบ้านแบบเดิมๆ  ในบทความนี้ เราจะพามาเปรียบเทียบให้เห็นว่า สี texture แตกต่างจากสีทาบ้านทั่วไปอย่างไร และทำไมเจ้าของบ้าน ดีไซน์เนอร์ รวมถึงสถาปนิกจึงมักจะเลือกใช้สี texture

 

1. ความแตกต่างด้านพื้นผิว (Surface)

  • สีทาบ้านทั่วไป: มีพื้นผิวเรียบหรือกึ่งมันเงา เน้นความเรียบร้อย ใช้ง่ายและรวดเร็ว แต่ความเรียบอาจทำให้ผนังดูธรรมดา ไม่มีลูกเล่นพิเศษ 
  • สี texture: สามารถสร้างมิติของผนังได้หลากหลาย เช่น ผิวหยาบ ผิวลายหิน หรือผิวที่มีลวดลายเฉพาะตัว ช่วยเปลี่ยนผนังเรียบๆ ให้มีชีวิตชีวาและโดดเด่นมากขึ้น

ดังนั้นหากคุณต้องการผนังที่ “ไม่ธรรมดา” ผนัง texture ถือว่าตอบโจทย์อย่างมาก

 

2. ความทนทานและการดูแลรักษา

  • สีทาบ้านทั่วไป: เหมาะกับงานทั่วไป เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น มีอายุการใช้งานตามมาตรฐาน แต่หากโดนความชื้นหรือรอยขีดข่วนอาจเกิดการลอกและซีดจางได้ง่าย 
  • สี texture: มีความหนาและแข็งแรงกว่า และปลอดภัย เนื่องจากมีส่วนผสมของทราย แร่ หรือวัสดุเฉพาะที่ช่วยเพิ่มความทนทาน จึงเหมาะกับพื้นที่ที่ต้องการความแข็งแรงและใช้งานยาวนาน เช่น ห้องรับแขก โถงทางเดิน หรือพื้นที่ที่ต้องการโชว์งานดีไซน์

การทำ ผนัง texture ยังช่วยปกปิดรอยแตกร้าวเล็กๆ ได้ดี ซึ่งสีทาบ้านทั่วไปไม่สามารถทำได้

 

3. ความสวยงามและดีไซน์

  • สีทาบ้านทั่วไป: ให้ความสวยงามแบบเรียบง่าย เหมาะสำหรับคนที่ชอบสไตล์มินิมอลหรือไม่ต้องการการตกแต่งที่ซับซ้อน 
  • สี texture: เพิ่มความหรูหรา มีมิติ สามารถออกแบบลวดลาย สีสัน และโทนที่แตกต่างกันได้ตามสไตล์ เช่น โมเดิร์น คลาสสิก หรืออินดัสเทรียล ช่วยให้บ้านหรือพื้นที่ดูมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว 

 

สี texture แตกต่างจากสีทาบ้านทั่วไปอย่างไร?

 

4. การใช้งาน (Application)

  • สีทาบ้านทั่วไป: ทาได้ง่าย ใช้เวลาไม่นาน สามารถทาด้วยลูกกลิ้งหรือแปรงได้เลย เหมาะกับการปรับปรุงบ้านแบบรวดเร็ว 
  • สี texture: ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในการทำงาน เพราะต้องใช้เทคนิคและเครื่องมือพิเศษ เช่น เกรียง ปาด หรือพ่น หากทำโดยช่างผู้เชี่ยวชาญจะได้ ผนัง texture ที่สวยงามและคงทน 

 

5. ราคาและความคุ้มค่า

  • สีทาบ้านทั่วไป: ราคาต่อพื้นที่ค่อนข้างถูกกว่า และเหมาะกับงานทั่วไปที่ไม่ต้องการลูกเล่นมาก 
  • สี texture: ราคาสูงกว่าเล็กน้อย แต่ให้ความคุ้มค่าในแง่ความสวยงาม ความทนทาน และอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า 

ดังนั้น หากมองในมุมการลงทุนระยะยาว สี texture จัดว่าคุ้มค่าเพราะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาได้ในอนาคต

 

6. การใช้งานในพื้นที่ต่างๆ

  • สีทาบ้านทั่วไป: เหมาะกับผนังที่ไม่ต้องการเน้นดีไซน์มาก เช่น ห้องนอน ห้องเก็บของ 
  • ผนัง texture: เหมาะกับพื้นที่ที่ต้องการความโดดเด่น เช่น ผนังหลังโซฟา ผนังห้องรับแขก ผนังหัวเตียง หรือแม้แต่ผนังโถงทางเดิน ที่ต้องการให้กลายเป็นจุดโฟกัสของห้อง

 

สี texture แตกต่างจากสีทาบ้านทั่วไปอย่างไร?

 

ทำไมควรเลือกสี texture?

หากคุณกำลังมองหาวิธีการตกแต่งผนังที่ไม่ซ้ำใคร มีความคงทน และสามารถสะท้อนสไตล์ของคุณได้อย่างชัดเจน สี texture ถือเป็นคำตอบที่ดีกว่าสีทาบ้านทั่วไปอย่างชัดเจน เพราะนอกจากจะช่วยสร้างมิติและความโดดเด่นให้กับ ผนัง texture แล้ว ยังช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ร้านค้า หรือรีสอร์ท

 

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

 

 

ติดต่อสอบถาม

Line : @petradecor

Tel : 02-028-8714

Email : info@petradecoration.com

Facebook : https://www.facebook.com/goldleafsilverleaf/